329949664_1825174794532963_4715716960068664269_n

“ดอกจาน” ดอกไม้ประจำจังหวัดอุดรธานี เชียงใหม่ และลำพูน

     ต้นทองกวาว มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียใต้ จากประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ศรีลังกา เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน อินเดีย และในแถบทางภาคตะวันตกของอินโดนีเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงประมาณ ๑๒-๑๘ เมตร กิ่งอ่อนมีขนละเอียดสีน้ำตาลหนา ลักษณะของการแตกกิ่งก้านจะเป็นไปในทิศทางที่ไม่เป็นระเบียบ ส่วนเปลือกต้นจะเป็นปุ่มปม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือการใช้กิ่งปักชำ
      มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า จาน (อุบลราชธานี), จ้า (สุรินทร์), ทองต้น (ราชบุรี), ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ (ภาคกลาง), กวาว ก๋าว (ภาคเหนือ), ดอกจาน (ภาคอีสาน), จอมทอง (ภาคใต้), กวาวต้น เป็นต้น
     ใบทองกวาว ลักษณะเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย ๓ ใบเรียงสลับ ใบย่อยที่ปลายรูปไข่ กลีบแกมสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ส่วนใบย่อยด้านข้างจะเป็นรูปไม่เบี้ยว มีความกว้างประมาณ ๘-๑๕ เซนติเมตร มีความยาวประมาณ ๑๗ เซนติเมตร และขอบใบเรียบ
     ดอกทองกวาว ออกดอกเป็นช่อคล้ายกับดอกทองหลาง ดอกมีสีแดงส้มหรือแสด มีความยาวประมาณ ๖-๑๕ เซนติเมตร มีดอกย่อยเกาะกันเป็นกลุ่ม เมื่อดอกบานจะมีกลีบ ๕ กลีบ และจะออกดอกมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
     ผลทองกวาว ลักษณะของผลเป็นฝักแบน ฝักมีสีเขียวอ่อนและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองเมื่อแก่เต็มที่ ที่ฝักมีขนอ่อนนุ่มสีขาวเป็นมัน ฝักโค้งงอเล็กน้อย ไม่แตก ส่วนด้านบนหนาแตกเป็น ๒ ซีก ในฝักมีเมล็ดขนาดเล็กอยู่ภายใน ๑ เมล็ด ฝักมีความยาวประมาณ ๑๐-๑๔ เซนติเมตร และกว้างประมาณ ๒-๓.๕ เซนติเมตร
     ประโยชน์ของทองกวาว
๑. ดอกใช้ย้อมสีผ้า โดยจะให้สีเหลือง สีส้ม และสีแดง ขึ้นอยู่กับการคัดกรองสีจากดอกทองกวาว
๒. ลำต้นเมื่อนำมาสับเป็นแผลจะมียางไหลออกมา สามารถนำมาใช้แทน Kimo ได้ หรือที่เรียกว่า Bengal kino
๓. เส้นใยจากเปลือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นเชือกหลวม ๆ และกระดาษได้
๔. ใบสดนำมาใช้ห่อของ ใบทองกวาวใช้ตากมะม่วงกวน ใบใช้เป็นอาหารสำหรับช้างและวัวควายได้ ในอินเดียใช้ใบนำมาปั้นเป็นถ้วยไว้ใส่อาหารและขนมแทนการใช้พลาสติก
๕. เนื้อไม้สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องเรือนและเครื่องมือทางการเกษตรได้ เนื้อไม้เมื่อแห้งจะมีน้ำหนักเบาและหดตัวมาก จึงสามารถใช้ทำกระดานกรุบ่อน้ำ ทำเรือขุดหรือเรือโปงใช้ชั่วคราว หรือใช้กั้นบ่อน้ำ ร่องน้ำ และกังหันน้ำได้
๖. ทองกวาวจัดเป็นไม้มงคลนาม คนไทยสมัยก่อนเชื่อว่าหากบ้านใดปลูกต้นทองกวาวไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเงินมีทองมาก คือสามารถมีทองได้ตามชาติหรือมีทองมากมายนั่นเอง นอกจากนี้ดอกทองกวาวยังมีความสวยงามเรืองรองเหมือนทองธรรมชาติอีกด้วย โดยตำแหน่งที่ปลูกก็คือทิศใต้ และถ้าปลูกในวันเสาร์ก็จะยิ่งเป็นมงคลขึ้นไปอีก หรือถ้าจะให้เป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือหรือเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดีก็จะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
     ดอกทองกวาว มีการนำมาใช้ในรูปแบบผลงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างผลงานแรงบันดาลใจจากดอกทางกวาวในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เช่น การออกแบบลายผ้ามัดหมี่ ผลงานสร้างสรรค์ศิลปะ หรือนำมาใช้ในการออกแบบโครงสร้างในรูปแบบอาคาร ป้ายบอกทาง
แหล่งอ้างอิง :
✒️เว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, รายการสาระความรู้ทางการเกษตร สถานีวิทยุ มอ. เอฟเอ็ม แปดสิบแปด เมกะเฮิร์ตซ์, หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม ๑
✒️เต็ม สมิตินันท์. (๒๕๕๗). ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม.
✒️ราชันย์ภู่มา. (๒๕๕๙). สารานุกรมพืชในประเทศ (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา. กรุงเทพฯ : สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
📸ภาพประกอบ :
ผศ.ดร.ธีร์ธวัช สิงหศิริ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์
วิธรีนันท์ โกสินธบ นักศึกษาสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์
นวพล พัฒนชีวกุล นักศึกษาสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์
นิมิต หาญสาคู นักศึกษาสาขาวิชาทัศนศิลป์

Comments are closed.