อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ดำเนินการ ขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ในวาระสุดท้าย แด่ ผศ.อภิชิต รัตนโกเมศ ผู้วายชนม์ ขอให้ท่านสู่สัมปรายภพ
การขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
ผู้มีสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
1. พระสมณศักดิ์ตั้งแต่ชั้น “พระครูสัญญาบัตร” ขึ้นไปและพระภิกษุสามเณร เปรียญธรรม 9 ประโยค
2. พระราชวงศ์ตั้งแต่ชั้น “หม่อมเจ้า” ขึ้นไป
3. ข้าราชการพลเรือนระดับ 3 ขึ้นไป หรือข้าราชการตามระบบจำแนกประเภทตำแหน่งประเภทวิชาการ
ระดับปฏิบัติการและประเภททั่วไประดับปฏิบัติการที่รับราชการ 2 ปีขึ้นไป
4. ข้าราชการฝ่ายทหารทหารตำรวจยศชั้นร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี ร้อยตำรวจตรี ขึ้นไป
5. ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตั้งแต่ “เบญจมดิเรกคุณาภรณ์” (บ.ภ.) และเบญจมาภรณ์
มงกุฎไทย” (บ.ม.) ขึ้นไป
6. ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
7. ประธานองค์กรต่าง ๆ ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญและรัฐมนตรีที่ถึงแก่กรรมในขณะดำรงตำแหน่ง
8. บิดาและมารดาของผู้ดำรงตำแหน่ง องคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกาและประธานองค์กรที่กำหนด ในรัฐธรรมนูญและรัฐมนตรีที่ถึงแก่กรรม
ในขณะบุตรดำรงตำแหน่ง
9. สมาชิกผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ถึงแก่กรรมขณะดำรงตำแหน่ง
10. ผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เป็นกรณีพิเศษ
เอกสารประกอบ
1. หนังสือขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
2. ใบมรณะบัตรหรือหนังสือรับรองการตาย
3. สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ (ผู้วายชนม์)
หมายเหตุ : กรณีไม่มีบัตรข้าราชการ ให้ใช้บัตรประชาชนแทนได้
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้วายชนม์)
5. สำเนาบัตรประชาชน (ทายาท/ผู้ขอ)
6. สำเนาทะเบียนบ้าน (ทายาท/ผู้ขอ)
7. สำเนาใบกำกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์/ใบตราตั้งสมณศักดิ์ (ถ้ามี)
8. หนังสือสุทธิ (กรณีพระสงฆ์) (ถ้ามี)
9. ใบตราตั้งสมณศักดิ์ (กรณีพระสงฆ์) (ถ้ามี)
10. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี)
หมายเหตุ: เช่น ใบแจ้งความ ใบเปลี่ยนชื่อ เป็นต้น
***บุคคลผู้ทำลายชีพตนเอง และผู้ต้องอาญาแผ่นดินไม่พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ***
ข้อมูลจาก : กองสวัสดิการศาลยุติธรรม