22

ร่วมทำบุญงานประเพณีบุญมหาชาติ (พระเวสสันดร) ประจำปี 2567

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญงานประเพณีบุญมหาชาติ (พระเวสสันดร) ประจำปี 2567 ณ วัดโนนสว่าง ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ระหว่างวันที่ 17 ถึง 18 กุมภาพันธ์ 2567

เดือนสี่ บุญผะเหวด

“บุญผะเหวด” เป็นสําเนียงชาวอีสานที่มาจากคําว่า “บุญพระเวส”หรือพระเวสสันดร เป็นประเพณีตามคติความเชื่อของชาวอีสานที่ว่า หากผู้ใดได้ฟัง เทศน์เรื่องพระเวสสันดรทั้ง 13 กัณฑ์จบภายในวันเดียว จะได้เกิดร่วมชาติภพกับพระศรีอริยเมตไตย บุญผะเหวดนี้จะทําติดต่อกันสามวัน วันแรกจัดเตรียมสถานที่ตกแต่ง ศาลาการเปรียญวันที่สองเป็นวันเฉลิมฉลองพระเวสสันดร ชาวบ้านร่วมทั้งพระภิกษุสงฆ์จากหมู่บ้านใกล้เคียงจะมา ร่วมพิธีมีทั้งการจัดขบวนแห่เครื่องไทยทานฟังเทศน์และแห่พระเวส โดยการแห่ผ้าผะเหวด (ผ้าผืนยาวเขียนภาพเล่าเรื่องพระเวสสันดร) ซึ่งสมมติเป็น การแห่พระเวสสันดรเข้าสู่เมือง เมื่อถึงเวลาค่ำจะมีเทศน์เรื่องพระมาลัย ส่วนวันที่สามเป็นงานบุญพิธี ชาวบ้านจะร่วมกันตักบาตรข้าวพันก้อน พิธีจะมี ไปจนค่ำ ชาวบ้านจะแห่แหน ฟ้อนรําตั้งขบวนเรียงรายตั้งกัณฑ์มาถวายอานิสงฆ์อีกกัณฑ์หนึ่ง จึงเสร็จพิธมูลเหตุของพิธีกรรมพระสงฆ์จะเทศน์เรื่อง เวสสันดรชาดกจนจบและเทศน์ จากเรื่องในหนังสือมาไลยหมื่นมาไลยแสนกล่าวว่า ครั้งหนึ่งพระมาลัยเถระได้ขึ้นไปไหว้พระธาตุเกษแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และได้พบปะสนทนากับพระศรีอริยเมนไตย ผู้ที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตและพระศรีอริยเมตไตยได้สั่งความมากับ พระมาลัยว่า “ถ้ามนุษย์อยากจะพบและร่วมเกิดในศาสนาของพระองค์แล้วจะต้องปฏิบัติตนดังต่อไปนี้คือ”

1. จงอย่าฆ่าพ่อตีแม่ สมณพราหมณ์
2. จงอย่าทําร้ายพระพุทธเจ้า และยุยงให้สงฆ์แตกแยกกัน
3. ให้ตั้งใจฟังเทศน์เรื่อง พระเวสสันดรให้จบในวันเดียวด้วยเหตุ ที่ชาวอีสานต้องการจะได้พบพระศรีอริยเมตไตยและเกิดร่วมศาสนาของพระองค์จึง มีการทําบุญผะเหวด ซึ่งเป็นประจําทุกปี

ที่มา : https://cac.kku.ac.th/heet12_kong14/phawed.html

427956365_707853081542893_2713032926408709889_n

ร่วมเซ็น MOU กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และสภาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาราชภัฏแห่งประเทศไทย

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วม เซ็น MOU กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และสภาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาราชภัฏแห่งประเทศไทย
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีและ อาจารย์จุรีรัตน์ ทวยสม รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ร่วมประชุมเครือข่ายสภาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทยครั้งที่ ๓ “โม โฮบบาย จุมคะเนีย”
โดยมี นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ กล่าวต้อนรับประธานและเครือข่ายสภาศิลปะและวัฒนธรรมจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ ๓๘ แห่งทั่วประเทศ และ ดร.ทวิพัฒน์ วิจิตรปัญญารักษ์ ประธานสภาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดการประชุม
และพิธีลงนาม (MOU) ความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม ระหว่าง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กับสภาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาราชภัฏแห่งประเทศไทย ๓๘ แห่ง เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินงานทางด้านศิลปวัฒนธรรม สนับสนุนพันธกิจทางวิชาการด้านการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของท้องถิ่น โดยอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้มอบรางวัล “ ราชภัฏคุณากร” และ มอบรางวัลปราชญ์ท้องถิ่น “ภูมิราชภัฏ” และร่วมเสวนา”การยกระดับSoft Power อาหาร พื้นบ้าน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเเละเศรษฐกิจสร้างสรรค์” ณ ห้อง Hall ๑ โรงแรมบีลีฟ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
ภาคค่ำ ร่วมพิธีเปิดงานเทศกาลการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ประจำประเทศไทย ครั้งที่ ๒ (Thailand 2nd Cultural Exchange Festival : Thailand – CEF) โดยโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานในพืธี
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๐๐ น.
ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา (สวนใหม่) จังหวัดสุรินทร์
425531911_7744830472193693_6887621303846158149_n

ลวดลายประทับดินเผาบ้านเชียง : บูรณาการสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์

โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์

“สืบเส้นใย สานภูมิปัญญาบ้านเชียง” วันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ 2567 ณ พื้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง ในงานมรดกโลกบ้านเชียง ประจำปี 2567
….
ลูกกลิ้งและตราประทับดินเผา เป็นโบราณวัตถุที่อยู่ในช่วงสมัยปลาย (Late Period) มีอายุระหว่าง 2,300-1,800 ปีมาแล้ว ประโยชน์การใช้สอยของลูกกลิ้งและตราประทับดินเผายังขาดหลักฐานที่ชัดเจน พิสิฐ เจริญวงศ์ (2530, หน้า 28 และ 35), สุจิตต์ วงษ์เทศ (2530, หน้า 26), Armand J. Labbe (2002, p47-50), Joyce C. White (1952, p75-76) และวิบูลย์ ลี้สุวรรณ (2531, หน้า 2-8) มีข้อสันนิษฐานที่สอดคล้องกันว่า ลูกกลิ้งดินเผาบ้านเชียงใช้กลิ้งลายบนภาชนะดินเผา แต่เพราะลวดลายบนภาชนะดินเผาบ้านเชียงสมัยปลายเป็นลวดลายที่เกิดจากการเขียนด้วยพู่กัน และไม่ปรากฎลวดลายบนภาชนะดินเผาที่เกิดจากลายของลูกกลิ้ง อีกทั้งรูปร่างขนาดใหญ่ของลูกกลิ้งไม่สามารถใช้กลิ้งหรือพิมพ์ลวดลายบนภาชนะดินเผาได้ จึงเกิดสมมติฐานที่ว่าเป็นเครื่องมือกลิ้งลวดลายบนผืนผ้า
👉ลักษณะลูกกลิ้งและตราประทับดินเผาเป็นโบราณวัตถุขนาดเล็กที่มี 2 รูปทรง คือ รูปทรงกระบอกที่ตัวลูกกลิ้งมีการแกะ ขูด ขีดให้เป็นร่องหรือรอยนูน มีแกนกลางที่ใช้ในการสอดเชือก หรือไม้ในการกลิ้งให้เกิดลวดลายบนวัตถุอื่น และรูปทรงแบนเป็นแผ่นดินเผามีทั้งรูปทรงสี่เหลี่ยม ทรงกลม ครึ่งวงกลม ตกแต่งแผ่นดินเผาด้านหน้าด้วยการแกะสลัก ขูด ขีดให้เป็นร่องหรือรอยนูนเช่นเดียวกับลูกกลิ้งทรงกระบอกและมีด้ามจับที่บริเวณด้านหลังเพื่อใช้สำหรับประทับบนวัตถุอื่นในการสร้างลวดลาย
👉ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานสามารถแบ่งเชิงพฤติกรรมได้ 2 ข้อ คือ
1. ความเชื่อของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ ใช้ในการประกอบพิธีกรรม โดยเฉพาะในประเพณีที่เกี่ยวกับความตาย หรือที่เรียกว่าประเพณีปลงศพที่จะนำเครื่องมือ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันไปฝังรวมกับศพผู้ตายด้วย เช่น เครื่องมือหิน เครื่องปั้นดินเผา ภาชนะต่าง ๆ เครื่องประดับ เครื่องมือเครื่องใช้โลหะ และลูกกลิ้งดินเผา สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานที่ว่าประโยชน์ของลูกกลิ้งใช้ในการประกอบพิธีกรรมด้วยการฝังร่วมกับศพผู้ตาย และเป็นอุปกรณ์ของพ่อมดหมอผีในยุคสมัยนั้น
2. ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบต่าง ๆ ในรูปของงานหัตถกรรม จากข้อสันนิษฐานที่ชัดเจนคือใช้ประกอบการตกแต่งลวดลายบนผ้า หรือบนภาชนะดินเผา ในรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการตกแต่ง เช่น เครื่องรางของขลัง และเครื่องประดับ จากการศึกษาข้อมูลนักโบราณคดีและนักวิชาการส่วนมาก เชื่อว่าลูกกลิ้งและตราประทับดินเผาบ้านเชียงใช้ในการพิมพ์ลวดลายบนผ้า หลักฐานจากการพบเศษผ้าและมีแนวโน้มว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด ทั้งนี้เพราะลูกกลิ้งและตราประทับดินเผาบ้านเชียงจำนวนมากขุดพบในยุคปลาย 2,300-1,800 ปี ยุคเดียวกับการเขียนสีบนเครื่องปั้นดินเผา
👉ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานที่ว่า “คนยุคก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียงรู้จักการสร้างสรรค์ลวดลายที่วิจิตรบนภาชนะดินเผาที่เป็นเครื่องใช้ ดังนั้นเครื่องแต่งกายที่ตกแต่งร่างกายคนในสมัยนั้นน่าจะมีการสร้างสรรค์ลวดลายที่วิจิตร สวยงามเช่นเดียวกัน”
…….
ข้อมูลเพิ่มเติม : อ่านได้ใน E-book แสดงงานที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง งานมรดกโลก 2567 นี้นะจ๊ะ❤😘
…..
งานวิจัยปี 2558 ลวดลายประทับดินเผาบ้านเชียง : บูรณาการสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์
และต่อยอดงานวิจัยปี 2561 สัมพันธภาพระหว่างลวดลายประทับดินเผาบ้านเชียงกับลายมงคลสมัยนิยม สู่งานออกแบบผลิตภัณฑ์ชุมชนในจังหวัดอุดรธานี (ผศ.ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์)
ที่มา : https://www.facebook.com/kanit.rungwannasak?locale=th_TH
426145709_706150225046512_1222529154504945718_n

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วมพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียงประจำปี พ.ศ.๒๕๖๗

วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๖.๐๐ น. อธิการบดี มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิทธิพล สิงห์คำ รองอธิการบดี พร้อมด้วย อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม อาจารย์จุรีรัตน์ ทวยสม รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม เข้าร่วมพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียงภายใต้โครงการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว กิจกรรมหลัก การส่งเสริมการท่องเที่ยวมรดกโลกบ้านเชียง ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๗

ในช่วงเช้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีบวงสรวงปู่ขุนเชียงสวัสดิ์และเปิดนิทรรศการพิเศษเนื่องในงานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียง โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีบวงสรวง พร้อมกล่าวเปิดนิทรรศการพิเศษฯ นายสมศักดิ์ แสนอินทร์ นายอำเภอหนองหาน กล่าวให้การต้อนรับ นายวิเชต ลิ้มภักดี ผอ.ศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น กล่าวรายงานวัตุประสงค์การจัดงาน หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เข้าร่วม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

งานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียง ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ พ.ศ.2543 สืบเนื่องมาจาก อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เป็นที่ตั้งของแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 1 ใน 3 แห่งของประเทศไทย จังหวัดอุดรธานี หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียง เพื่อเฉลิมฉลองและเผยแพร่ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีของแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง อันเป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นพัฒนาการของการตั้งถิ่นฐานการเกษตรกรรม วัฒนธรรมการฝังศพ และศิลปะอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญในระดับนานาชาติ อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งมรดกโลกบ้านเชียงให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลก

วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๖.๐๐ น. อธิการบดี มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิทธิพล สิงห์คำ รองอธิการบดี พร้อมด้วย อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม อาจารย์จุรีรัตน์ ทวยสม รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม เข้าร่วมพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียงภายใต้โครงการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว กิจกรรมหลัก การส่งเสริมการท่องเที่ยวมรดกโลกบ้านเชียง ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๗ โดยมี นายสุรพล เกียรติไชยากร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีฯ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ฯ นายธีทัต พิมพา วัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี นายสมศักดิ์ แสนอินทร์ นายอำเภอหนองหาน พันตรีสุเมธ คำพิมาน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเชียง นายอำนาจ ผการัตน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ลานวัฒนธรรม ชุมชนคุณธรรมบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
การจัดงานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียงในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๘-๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ กิจกรรมภายในงานมีดังนี้
๑. การจัดพิธีบวงสรวงบรรพบุรุษชาวบ้านเชียงและปู่ขุนเชียงสวัสดิ์
๒. การจัดขบวนแห่วิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณี
๓. การแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม “ ตำนานวิถีชีวิตมรดกโลกบ้านเชียง”
๔. การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
๕. การแสดง “วิถีคนวิถีควาย”
๖. การจัดนิทรรศการวิชาการในหัวข้อ “ สืบเส้นใยผ้า สานภูมิปัญญาท้องถิ่น”
๗. การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยและผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นและการแสดงดนตรีพื้นบ้าน
CR.Jirasak SC
426170827_706142848380583_3298418633306305205_n

นิทรรศการวิชาการ “สืบเส้นใย สานภูมิปัญญาบ้านเชียง”

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง จัดนิทรรศการวิชาการ “สืบเส้นใย สานภูมิปัญญาบ้านเชียง” วันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ 2567 ณ พื้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง ในงานมรดกโลกบ้านเชียง ประจำปี 2567
นิทรรศการแสดงผลงาน
“เส้นทางมรดกโลกอุดรธานี : ภูมิปัญญาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์“ งานวิจัยทุนหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์
แจก Free E-book ข้อมูล
👉ลูกกลิ้งและตราประทับดินเผาบ้านเชียง
👉การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยจากลายบ้านเชียง
👉ความหมายมงคลลายบ้านเชียงเชิงสัมพันธภาพ
👉ผลงานวิจัยการท่องเที่ยวมรดกโลกบ้านเชียง
เฉพาะในงานเท่านั้น📌📌📌
อยากได้ข้อมูลไปสแกนในงานนะคะ😁😁 เป็นการรวบรวมข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2553-2567
🏛️มรดกเรา มรดกไทย มรดกโลก “มรดกโลกบ้านเชียง”
👉จัดเต็มแสง สี เสียง การแสดงมโหรสพเฉลิมฉลองชมนิทรรศการมุมมองใหม่ ร่วมกิจกรรมสาธิตแบบลิมิเต็ดชิ้นเดียวในโลก ชมขบวนแห่สุดอลังในวันเปิดงาน (9/2/67) และอุดหนุนสินค้าสินค้าชุมชนและสินค้าสร้างสรรค์ จุ้ม•บ้านเชียง และกิจกรรม DIY สไตล์บ้านเชียงมรดกโลก
⚱️ กิจกรรมปั้นหมอเขียนสีไหบ้านเชียง ศูนย์เรียนรู้กลุ่มปั้นหม้อเขียนสี
🧣กิจกรรมย้อมผ้าหมักโคลนบ้านเชียง ผ้าฝ้ายบ้านเชียง : ส.หงษ์แดง
🎎 การแสดงทางวัฒนธรรม “ฟ้อนไทพวน”
และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี
🛕 free entry พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง : Banchiang National Museum
422923095_697169792611222_1849280302292209870_n

ร่วมประชุมคณะกรรมการจัดงานสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ ครั้งที่ 27 ณ วัดบ้านค้อ

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วมประชุมคณะกรรมการจัดงานสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ ครั้งที่ 27 ณ วัดบ้านค้อ
วันพุธที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 13.00 น. นางสาวจุรีรัตน์ ทวยสม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วมประชุมคณะกรรมการจัดงานสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ ครั้งที่ 27 เพื่อเตรียมการจัดงานเทศกาลสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 18 – 24 กุมภาพันธ์ 2567 รวม 7 วัน 7 คืน ณ วัดบ้านค้อ ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี โดยมี พระครูบริหารมงคลธรรม เจ้าคณะอำเภอบ้านผือ (ธ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมด้วย คณะสงฆ์ นายอำเภอบ้านผือและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
414851653_681574874170714_477952031453223723_n

ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล ครั้งที่ ๑๒ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล ครั้งที่ ๑๒ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๖.๐๐ น. มหาเถรสมาคม ร่วมกับ รัฐบาล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ครั้งที่ ๑๒ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ โดยในพิธี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ นำคณะสงฆ์ กรุงเทพมหานคร เจริญพระพุทธมนต์ ในการนี้ หัวหน้าส่วน หน่วยงานภาครัฐ-ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมพิธี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
การจัดพิธีการครั้งนี้จัดขึ้นตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๙/๒๕๖๕ มติที่ ๙๕๕/๒๕๖๕ มีมติเห็นชอบกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ ในทุกวันที่ ๒๘ ของเดือน รวมจำนวน ๑๒ ครั้ง โดยส่วนกลาง ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ส่วนภูมิภาค ณ วัด ที่กำหนด ทั่วประเทศ และวัดไทยในต่างประเทศดำเนินการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ ตามความเหมาะสม
ภาพ/ข่าว : กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
414133790_678827054445496_8169487649836964967_n

ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาแผนงาน Maha Songkran World Water Festival ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting) จากห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 กระทรวงมหาดไทย

วันนี้ (21ธ.ค.66) เวลา 15.30 น. อธิการบดี มอบหมายให้ อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วมประชุม โดยมี นายศรัณย์ศักย์ ศรีเครือเนตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาแผนงาน Maha Songkran World Water Festival ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting) จากห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 กระทรวงมหาดไทย
ในการประชุมได้ร่วมกันพิจารณาการขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทยในการจัดงาน เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 “Maha Songkran World Water Festival 2024” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการร่วมอนุรักษ์และสืบสานประเพณีอันงดงามของไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาร่วมงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน สร้าง IP Festival และผลักดันให้ประเทศไทย การติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลของโลก โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลก รวมทั้งสื่อจากต่างประเทศ โดยผลที่คาดว่าจะได้รับคือ การผลักดันให้ประเทศไทย ติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลของโลก ร่วมอนุรักษ์และสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทย สร้าง IP Festival และผลักดันให้ประเทศไทย และสร้างรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท
โดยขอความอนุเคราะห์ 1. ให้จัดส่งรถสงกรานต์โดยประดับตกแต่งรถสงกรานต์ พร้อมนักแสดง เพื่อร่วมขบวนพาเหรดสงกรานต์ ทั้ง 76 จังหวัด 2. จัดส่งร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้า ของดีของเด่นแต่ละจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด เพื่อมาออกร้านจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายในงาน 3. การประปานครหลวงจัดเตรียมน้ำสะอาดสำหรับใช้ในกิจกรรมงานเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่จัดงาน 4. การไฟฟ้านครหลวงจัดหาการใช้กระแสไฟฟ้าและประดับไฟฟ้าในการจัดงาน ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ขอความอนุเคราะห์จัดงานเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ในพื้นที่ท้องสนามหลวงในการจัดงาน พื้นที่ถนนราชดำเนินกลางจากสะพานผ่านผ้าถึงสนามหลวง และพื้นที่ถนนราชดำเนินในรอบท้องสนามหลวง ในส่วนของภาคเอกชน ขอใช้เวทีการประชุม กรอ.จังหวัด ในการขับเคลื่อนงาน รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำขบวนพาเหรดเข้าร่วมงาน ทั้งนี้จะมีการประชุมร่วมกันอีกครี้งเพื่อสรุปการจัดงาน Maha songkran
412134448_674558568205678_6371407465052390535_n-1

กิจกรรมการจัดทำฐานข้อมูลศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน (KM Action Plan) ศิลปวัฒนธรรมไทยพวนบ้านผือ

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดทำฐานข้อมูลศิลปะการแทงหยวก ในพื้นที่แหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ไทยพวนบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในอนาคต ภายใต้โครงการหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และเป็นกิจกรรมการจัดทำฐานข้อมูลศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน (KM Action Plan) ศิลปวัฒนธรรมไทยพวนบ้านผือ
👉 การจัดทำสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบป้ายความรู้ ที่แสดงถึงประวัติ ความเป็นมาความสำคัญ รวมถึงขั้นตอนการทำศิลปะประเพณีไทยพวน (ศิลปะการแทงหยวก และการทำพวงมาลัยอีสานพวงมโหตร) ติดตั้ง ณ พิพิธภัณฑ์ไทยพวนบ้านผือ และมอบแผ่นพับความรู้เพื่อรองรับแก่นักท่องเที่ยว เยาวชน และผู้ที่สนใจในการเผยแพร่องค์ความรู้วงกว้างจากพื้นที่ชุมชน เพื่อก่อให้เกิดแนวทางการ “สืบสาน ต่อยอด อนุรักษ์” ต่อไป และได้มีการทดสอบการใช้แผ่นพับความรู้แก่ผู้เข้าอบรม จำนวน 70 คน เป็นนักเรียนจากโรงเรียนบริบาลภูมิเขตต์ และนักศึกษาจากสาขาพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ได้รับผลตอบรับอย่างดี และเกิดความเข้าใจที่ง่ายในการปฏิบัติ
👉ออกแบบ และเรียบเรียงข้อมูล โดยอาจารย์ชุติพงศ์ คงสันเทียะ สาขาพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี🎉🎉🎉

“สืบสาน ต่อยอด อนุรักษ์”

👉ผลงานจากการบูรณาการทางวัฒนธรรม การลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำฐานข้อมูลศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน สาขาพัฒนาสังคม และสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ดำเนินการจัดการความรู้ กลั่นกรองความรู้เชิงรูปธรรมในรูปแบบสินค้าที่จับต้องได้โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ
👉การบูรณาการวัฒนธรรมท้องถิ่น (ไทยพวนบ้านผือ) กับการผลิตสินค้าตามสมัยด้วยการสกรีน Sublimation เป็นของใช้ แก้วกาแฟ เสื้อยืด ที่สามารถส่งเสริมเป็นสินค้าของที่ระลึกของคนในพื้นที่ได้
👉ลวดลายที่ออกแบบจาก ผศ.ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม (ลายเสื้อยืด ลายอักษรพวน ลายเฮือนไทยพวน และลายข้าวงาโค) อาจารย์ชุติพงศ์ คงสันเทียะ สาขาพัฒนาสังคม (ลายศิลปะการแทงหยวก) และนางสาวจุฑากานต์ บัวระภา นักศึกษาสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ (ออกแบบลายคนไทยพวน)
……….
เพิ่มเติมผลงานการออกแบบของนักศึกษาสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ
🩷❤️colection 1 วัฒนธรรมการแต่งกายไทยพวนบ้านผือ โดยการดึงเอาวัสดุที่มีความโดดเด่นของไทยพวนบ้านผือ ลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ และฐานความรู้จากพิพิธภัณฑ์มาสร้างสรรค์ผลงาน ได้แก่
👉Miss Volada Bounmy ออกแบบพวงกุญแจจากผ้าขาวม้าอิโป้ 9 สีมงคลมาออกแบบเป็นของที่ระลึก ตัดเย็บด้วยมือ
👉นางสาวจุฑากานต์ บัวระภา ออกแบบที่คั่นหนังสือจากการแต่งกายชาวไทยพวนบ้านผือ
👉นางสาวสิรินยา ห่อหุ้มดี ออกแบบชุดที่รองจาน จากการดึงลายต้นผือ เอกลักษณ์ของชุมชนที่นิยมมัดหมี่ลายซิ่นมาถอดเป็นลายปัก เนาเดินเส้นอย่างสวยงาม
👉นางสาวปิยนันท์ นนทะสาร สมุดโน้ตจากลายวัฒนธรรม ผ้าขาวม้าอิโป้ 9 สีมงคล เทคนิคการผลิต Paper mache