333567772_1438959943308459_8509210538701733964_n (1)

กิจกรรมอบรมหลักสูตรระยะสั้น “ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง”

วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566 อ.ชุติพงศ์ คงสันเทียะ ผู้ช่วย ผอ.สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้รับเชิญจากวิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ให้เป็นวิทยากรอบรมหลักสูตรระยะสั้น “ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง” กิจกรรมวิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่ชุมชน ณ วัดสีลาอาสน์ ต.หนองเรือ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู โดยเน้นให้ผู้นำชุมชน/กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/คณะกรรมการหมู่บ้านเกิดทักษะและความรู้ในการใช้เครื่องมือ SWOT to TOWS matrix ในการสร้างยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นด้านเศรษฐกิจ อาชีพ และการท่องเที่ยว

333828775_1346617346160626_4299770777090061620_n

เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์แหล่งมรดกโลกในจังหวัดอุดรธานี

โครงการวิจัยเส้นทางมรดกโลกอุดรธานี : ภูมิปัญญาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)

วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ผศ.ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม หัวหน้าโครงการวิจัยเส้นทางมรดกโลกอุดรธานี : ภูมิปัญญาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ในกิจกรรมย่อยที่ ๑ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์แหล่งมรดกโลกในจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าโครงการ ดร.รัมภาภัค ฤกษ์วีระวัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคุณชุมพร สุทธิบุญ ประธานโฮมสเตย์บ้านเชียง จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวมรดกโลกบ้านเชียง และเส้นทางวัฒนธรรมบ้านผือ
👉กิจกรรมช่วงเช้าที่อำเภอบ้านผือ ณ อุทยานแห่งชาติภูพระบาท ชมความสวยงามของโบราณสถาน เรียนรู้ภาพเขียนสีของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงวัฒนธรรมประเพณีสมัยทวารวดี และพิพิธภัณฑ์ไทยพวนบ้านผือ ในการเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมไทยพวน กิจกรรมการทอผ้า การกวนข้าวงานโค การแทงหยวก มัดย้อมผ้า และกัดสีผ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดโดยศูนย์ออกแบบสร้างสรรค์ผ้าและสิ่งทอ (FTCDC) กับสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จากนั้นเดินทางมาที่อำเภอทุ่งฝน ศูนย์การเรียนรู้จักสานคล้าบ้านโนนสะอาด เพื่อชมสินค้าของฝากพรีเมียมที่ส่งขายประเทศญี่ปุ่น รวมถึงนวัตกรรมกระดาษจากเศษคล้า (ผลจากงานวิจัยปี ๒๕๖๒) โดยสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีได้เป็นผู้จัดพื้นที่กิจกรรม workshop การทำผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกจากคล้า เดินทางต่อไปที่วัดป่าสันติวนาราม (วัดดอกบัว) รับฟังธรรม และทำบุญ จึงเดินทางเข้าที่พักโฮมสเตย์บ้านเชียงในลำดับถัดไป
❤️กิจกรรมทดสอบเส้นทางในครั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์ในการร่วมทดสอบโดย คุณพรพิมล กังวานตระกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยอุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดอุดรธานี ผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์จากบริษัททัวร์ ร้านอาหาร ผู้สื่อข่าว และทีมงานเพจข่าว พร้อมนักศึกษารวม ๒๕ คน ซึ่งได้รับคำชมและข้อเสนอแนะอย่างดี เพื่อเกิดแนวทางในการพัฒนางานวิจัยเส้นทางท่องเที่ยวมรดกโลกอุดรธานีในลำดับถัดไป🙏🙏🙏
333611808_1882139238804097_6025134756180012585_n

โครงการหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖

โครงการหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
……………………………………………………………………………….
❤️ชุมชนหนองหาน ย่านซ้อนทับแหล่งโบราณสถาน ❤️
หนังสือเล่มนี้กล่าวสรุปถึงพื้นที่ชุมชนบ้านเชียง อำเภอหนองหาน ย่านซ้อนทับแหล่งโบราณ และการค้า ในส่วนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งวัดโพธิ์ศรีใน (พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของไทย) ตลาดวัฒนธรรมบ้านเชียง พิพิธภัณฑ์ไทพวนบ้านเชียง ศูนย์การเรียนรู้ปั้นหม้อเขียนสี และผ้าฝ้ายย้อมครามบ้านเชียง รวมถึงส้างโบราณ (สระหรือบ่อน้ำโบราณ) ที่ยังคงอยู่ให้ลูกหลานได้ศึกษาถึงภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน
…………………………………………………………………………………..
ผู้ที่สนใจสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่ออ่านเนื้อหาได้เลยค่ะ
หรือโหลดได้จากลิ้งค์ https://anyflip.com/acjwm/rcxc/
 
ขอบพระคุณ ปราชญ์ชาวบ้านผู้ให้ข้อมูล และองค์ความรู้เพื่อรวบรวมเรียบเรียงข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในครั้งนี้ ก่อนข้อมูลจะสูญหาย คุณแม่อังคณา บุญพงษ์ ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลบ้านเชียง อดีตอาจารย์ ๓ ระดับ ๘ โรงเรียนบ้านเชียง คุณพ่อประสิทธิ์ จันทะสี รองประธานสภาวัฒนธรรมตำบลบ้านเชียง คุณแม่นิภากรณ์ กลางพรหม รองประธานสภาวัฒนธรรมตำบลบ้านเชียง และนางสาวบุษราภรณ์ กลางพรหม  ไกด์บุ๊คบ้านเชียง มัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ให้ความอนุเคราะห์ในข้อมูลทุกด้าน และให้การช่วยเหลือตลอด
ขอขอบคุณศูนย์การเรียนรู้กลุ่มปั้นหม้อเขียนสี คุณชาตรี ตะโจประรัง และกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านเชียง – ส.หงษ์แดง คุณสมบัติ มัญญะหงส์ ผ้าฝ้ายทอมือบ้านเชียง : ส.หงษ์แดง ที่ให้ข้อมูลการงานหัตถกรรมชุมชน
329949664_1825174794532963_4715716960068664269_n

“ดอกจาน” ดอกไม้ประจำจังหวัดอุดรธานี เชียงใหม่ และลำพูน

     ต้นทองกวาว มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียใต้ จากประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ศรีลังกา เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน อินเดีย และในแถบทางภาคตะวันตกของอินโดนีเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงประมาณ ๑๒-๑๘ เมตร กิ่งอ่อนมีขนละเอียดสีน้ำตาลหนา ลักษณะของการแตกกิ่งก้านจะเป็นไปในทิศทางที่ไม่เป็นระเบียบ ส่วนเปลือกต้นจะเป็นปุ่มปม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือการใช้กิ่งปักชำ
      มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า จาน (อุบลราชธานี), จ้า (สุรินทร์), ทองต้น (ราชบุรี), ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ (ภาคกลาง), กวาว ก๋าว (ภาคเหนือ), ดอกจาน (ภาคอีสาน), จอมทอง (ภาคใต้), กวาวต้น เป็นต้น
     ใบทองกวาว ลักษณะเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย ๓ ใบเรียงสลับ ใบย่อยที่ปลายรูปไข่ กลีบแกมสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ส่วนใบย่อยด้านข้างจะเป็นรูปไม่เบี้ยว มีความกว้างประมาณ ๘-๑๕ เซนติเมตร มีความยาวประมาณ ๑๗ เซนติเมตร และขอบใบเรียบ
     ดอกทองกวาว ออกดอกเป็นช่อคล้ายกับดอกทองหลาง ดอกมีสีแดงส้มหรือแสด มีความยาวประมาณ ๖-๑๕ เซนติเมตร มีดอกย่อยเกาะกันเป็นกลุ่ม เมื่อดอกบานจะมีกลีบ ๕ กลีบ และจะออกดอกมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
     ผลทองกวาว ลักษณะของผลเป็นฝักแบน ฝักมีสีเขียวอ่อนและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองเมื่อแก่เต็มที่ ที่ฝักมีขนอ่อนนุ่มสีขาวเป็นมัน ฝักโค้งงอเล็กน้อย ไม่แตก ส่วนด้านบนหนาแตกเป็น ๒ ซีก ในฝักมีเมล็ดขนาดเล็กอยู่ภายใน ๑ เมล็ด ฝักมีความยาวประมาณ ๑๐-๑๔ เซนติเมตร และกว้างประมาณ ๒-๓.๕ เซนติเมตร
     ประโยชน์ของทองกวาว
๑. ดอกใช้ย้อมสีผ้า โดยจะให้สีเหลือง สีส้ม และสีแดง ขึ้นอยู่กับการคัดกรองสีจากดอกทองกวาว
๒. ลำต้นเมื่อนำมาสับเป็นแผลจะมียางไหลออกมา สามารถนำมาใช้แทน Kimo ได้ หรือที่เรียกว่า Bengal kino
๓. เส้นใยจากเปลือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นเชือกหลวม ๆ และกระดาษได้
๔. ใบสดนำมาใช้ห่อของ ใบทองกวาวใช้ตากมะม่วงกวน ใบใช้เป็นอาหารสำหรับช้างและวัวควายได้ ในอินเดียใช้ใบนำมาปั้นเป็นถ้วยไว้ใส่อาหารและขนมแทนการใช้พลาสติก
๕. เนื้อไม้สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องเรือนและเครื่องมือทางการเกษตรได้ เนื้อไม้เมื่อแห้งจะมีน้ำหนักเบาและหดตัวมาก จึงสามารถใช้ทำกระดานกรุบ่อน้ำ ทำเรือขุดหรือเรือโปงใช้ชั่วคราว หรือใช้กั้นบ่อน้ำ ร่องน้ำ และกังหันน้ำได้
๖. ทองกวาวจัดเป็นไม้มงคลนาม คนไทยสมัยก่อนเชื่อว่าหากบ้านใดปลูกต้นทองกวาวไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเงินมีทองมาก คือสามารถมีทองได้ตามชาติหรือมีทองมากมายนั่นเอง นอกจากนี้ดอกทองกวาวยังมีความสวยงามเรืองรองเหมือนทองธรรมชาติอีกด้วย โดยตำแหน่งที่ปลูกก็คือทิศใต้ และถ้าปลูกในวันเสาร์ก็จะยิ่งเป็นมงคลขึ้นไปอีก หรือถ้าจะให้เป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือหรือเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดีก็จะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
     ดอกทองกวาว มีการนำมาใช้ในรูปแบบผลงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างผลงานแรงบันดาลใจจากดอกทางกวาวในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เช่น การออกแบบลายผ้ามัดหมี่ ผลงานสร้างสรรค์ศิลปะ หรือนำมาใช้ในการออกแบบโครงสร้างในรูปแบบอาคาร ป้ายบอกทาง
แหล่งอ้างอิง :
✒️เว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, รายการสาระความรู้ทางการเกษตร สถานีวิทยุ มอ. เอฟเอ็ม แปดสิบแปด เมกะเฮิร์ตซ์, หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม ๑
✒️เต็ม สมิตินันท์. (๒๕๕๗). ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม.
✒️ราชันย์ภู่มา. (๒๕๕๙). สารานุกรมพืชในประเทศ (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา. กรุงเทพฯ : สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
📸ภาพประกอบ :
ผศ.ดร.ธีร์ธวัช สิงหศิริ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์
วิธรีนันท์ โกสินธบ นักศึกษาสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์
นวพล พัฒนชีวกุล นักศึกษาสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์
นิมิต หาญสาคู นักศึกษาสาขาวิชาทัศนศิลป์
332484186_681619337045707_3224142641850705339_n

กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัดสีผ้าลายอัตลักษณ์บ้านผือ

วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ผศ.ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม หัวหน้าโครงการวิจัยเส้นทางมรดกโลกอุดรธานี : ภูมิปัญญาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัดสีผ้าลายอัตลักษณ์บ้านผือ ณ พิพิธภัณฑ์ไทยพวนบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี และจัดทำชุดอุปกรณ์ workshop มอบให้แก่ชุมชนเพื่อสร้างกิจกรรมเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์รองรับนักท่องเที่ยว เป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต
LINE_ALBUM_20266 _1_240131_24

กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผลิตภัณฑ์จักสานบ้านดงเย็น

วันที่ ๑๘-๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ผศ.ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม หัวหน้าโครงการวิจัยเส้นทางมรดกโลกอุดรธานี : ภูมิปัญญาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผลิตภัณฑ์จักสานบ้านดงเย็น ซึ่งเกิดจากผลงานวิจัย วิทยากรอบรม ผศ.ดร.กฤษฎา ดูพันดุง และ อาจารย์วิลาสินี ขำพรหมราช จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานนครราชสีมา ในการจัดอบรมทำกระเป๋าจากจักสานไม้ไผ่ และของตกแต่งจากทุนวัฒนธรรมบ้านเชียง เพื่อให้ชุมชนสามารถผลิตและต่อยอดได้

331412500_923928752094735_7008040636633507277_n

การอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับผ้าทอมืออัตลักษณ์อีสานตอนบนกลุ่มชุมชนรุ่นใหม่สู่ผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย

บรรยากาศอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับผ้าทอมืออัตลักษณ์อีสานตอนบนกลุ่มชุมชนรุ่นใหม่สู่ผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย ในวันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ห้องสุพรรณิการ์ ชั้น 3 ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดโดยศูนย์ออกแบบสร้างสรรค์ผ้าและสิ่งทอ FTCDC ร่วมกับสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กล่าวรายงานโดย อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม เปิดงานโดย ผศ.ดร.ธีระยุทธ์ เพ็งชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ในกิจกรรมครั้งนี้มีกลุ่มชุมชนเข้าอบรมทั้งสิ้น 22 กลุ่มชุมชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภูและบึงกาฬ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ และกลุ่ม OTOP 1-3 ดาว และมีการบูรณาการร่วมในวิชาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการจัดการธุรกิจร่วมสมัย เพื่อปลูกฝังการสร้างสรรค์ผ้าทอพื้นเมืองเพื่อการอนุรักษ์แก่เยาวชนรุ่นใหม่โดยมีเด็กนักศึกษาจากคณะวิทยาการจัดการเข้าร่วมจำนวน 80 คน
331927136_893394548649342_5969704566115689340_n

งานศิลปะวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ ๒๑ “ยลแสง – ศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข”

อาจารย์ระพีพรรณ จันทรสา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พร้อมด้วยอาจารย์ชุติพงศ์ คงสันเทียะ ผช.ผอ.นำชุดการแสดง ภูพระบาท อาจารย์ผู้ฝึกสอน อาจารย์ปิ่นเกศ วัชรปาณ อาจารย์ ดร.จิราพรรณ เอี่ยมแก้ว และอาจารย์ก้องเกียรติ ใจเย็น สาขานาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีธานี ร่วมงานศิลปะวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ ๒๑ “ยลแสง – ศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข” ระหว่างวันที่ ๑๗ – ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พบเพิงหินที่เป็นหอสูงในตำนานนิทานพื้นบ้านอีสาน อุสา-บารส เชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของนางอุสา และยังพบใบเสมา 8 ทิศ ซึ่งปรากฏภาพสลักที่สันนิษฐานว่าเป็นพระอินทร์ จึงนำตำนานและความเชื่อมานำเสนอเป็นการแสดงชุด ภูพระบาท

331435418_724013189302594_4300951969908375196_n

กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง โครงการวิจัยเส้นทางมรดกโลกอุดรธานี : ภูมิปัญญาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์

วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๖ ผศ.ดร.กนิษฐา เรืองวรรณศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม หัวหน้าโครงการวิจัยเส้นทางมรดกโลกอุดรธานี : ภูมิปัญญาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง ซึ่งเกิดจากผลงานวิจัย วิทยากรอบรมคุณสุรพล รัศมี และคุณรัตติยากร กวนหลวง ณ ศูนย์การเรียนรู้ปั้นหม้อเขียนสี ตำบลบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี และมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานีเข้าสังเกตการณ์ และให้ความสนใจในการส่งคัดสรรผลิตภัณฑ์ cpot ๒๕๖๖

330302084_1805818209790444_6853014804602242177_n (1)

๑๔ กุมภาพันธ์ “วันราชภัฏ”

ใกล้ ๑๔ กุมภาพันธ์ “วันราชภัฏ” มารู้สถานที่สำคัญกันในรั้วราชภัฏฯ ❤️❤️❤️
อาคารหอประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี “อาคารควรค่าแก่การอนุรักษ์”
ปีที่สร้าง พ.ศ. ๒๔๖๖ / ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. ๒๕๕๒
…………………………………………………………………….
อาคารหอประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี หรืออาคารวังแดง เป็นอาคารเรียนหลังแรกของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งเดิมคือโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมณฑลอุดร เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวขนาด ๕ ห้อง ใต้ถุนสูงสร้างด้วยไม้ตะเคียนหลังคามุงสังกะสี ในระยะแรกอาคารหลังนี้ได้ใช้เป็นอาคารเรียนเพียงอย่างเดียว หลังจากนั้นมีการปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเป็นห้องพักครูและสำนักงาน อาคารหอประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ถือเป็นตัวอย่างในการอนุรักษ์อาคารที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมโดยการปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอย และสามารถรักษารูปแบบและวัสดุเดิมของอาคารเอาไว้ได้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของผู้ที่เกี่ยวข้องในการรักษามรดกวัฒนธรรมสำคัญของเมือง ที่มาของชื่อ “วังแดง” นี้ไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าคงเรียกตามความใหญ่โตของอาคาร และความสลับซับซ้อนของห้องหับ อีกทั้งเรียกตามสีเนื้อไม้ที่ใช้ทำผนังอาคารก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามชื่อวังแดงนี้มิได้เป็นชื่ออย่างเป็นทางการ บางครั้งก็มีการเรียกว่า “อาคารกลาง” หรือ “อาคารขุนประสม”
อาคารหอประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีเป็นอาคารไม้หลังใหญ่ชั้นเดียวใต้ถุนสูง รูปทรงคล้ายกับบ้านพักอาศัยทั่วไปในแถบภาคอีสานหรือสถานที่ราชการตามหัวเมืองในอดีต ผังพื้นของอาคารเป็นแบบสมมาตร ๒ ข้างคล้ายรูปตัวเอช (H) มีบันไดไม้ขนาดใหญ่อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านหน้าอาคาร และมีระเบียงทางเดินนำไปยังห้องต่างๆ ผนังทั่วไปตีไม้ซ้อนเกล็ดเว้นช่องลมตีระแนงไม้เพื่อระบายอากาศให้ถ่ายเททั่วกันได้ทุกห้อง ส่วนเหนือระเบียงทำเกล็ดไม้ติดตายเพื่อกันไม่ให้แดดหรือฝนสาดเข้าตัวอาคาร มีไม้ฉลุลายค้ำทุกมุมเสาระเบียง หน้าต่างและประตูเป็นบานไม้ทึบเปิดคู่ มีช่องลมที่เหนือหน้าต่างและประตู หลังคาเป็นหลังคาปั้นหยาผสมหลังคาจั่ว มุงด้วยแผ่นหลังคาเหล็กสแกนรูฟ (Scan roof) สีแดง
จากอาคารไม้หลังแรกของสถาบัน จนถึงปัจจุบันในปี ๒๕๖๖ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีจะมีอายุครบ ๑๐๐ ปี และมีการพัฒนาทางกายภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก แต่ถึงกระนั้นอาคารวังแดงก็ยังยืนเด่นเป็นสง่า และได้รับการเอาใจใส่ดูแลสืบต่อมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยที่ ผศ.จรูญ ถาวรจักร์ เป็นอธิการบดี ได้มีการอนุรักษ์และปรับประโยชน์ใช้สอยครั้งใหญ่ เพื่อใช้เป็นหอประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยในการบูรณะปรับปรุงครั้งนั้นได้มีการปรับย้ายตำแหน่งอาคารเล็กน้อยให้สมดุลกับผังบริเวณโดยรวมมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวอาคารชั้นล่างได้ปรับเป็นห้องกระจกติดเครื่องปรับอากาศไว้สำหรับประกอบกิจกรรมอเนกประสงค์ อาทิเช่น การประชุมสัมมนา หรือพิธีการงานบุญต่าง ๆ โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีม่านบังตาใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อคงความรู้สึกว่าอาคารหลังนี้เป็นอาคารยกใต้ถุนสูง และโล่งโปร่งเหมือนเมื่อสมัยแรกสร้าง ส่วนพื้นที่ชั้นบนได้ตกแต่งห้องต่าง ๆ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อแสดงประวัติความเป็นมาของสถาบัน โดยผู้ออกแบบปรับปรุงได้จงใจเน้นประตูทางเข้าคู่หน้าให้สะดุดตา ด้วยภาพเขียนสีแบบไทยรูปเทวดาถือช่อดอกไม้ หรือทวารบาลบนพื้นสีแดงสด รับกับป้ายชื่อ “หอประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี” ที่ด้านหน้าอาคารได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วยังได้มีการย้อมสีผนังไม้เดิมที่ยังคงสภาพให้เรียบร้อยสม่ำเสมอ และเปลี่ยนวัสดุมุงหลังคาจากสังกะสีเป็นกระเบื้องสีแดงเพื่อความสง่างามมากยิ่งขึ้น ส่วนภูมิทัศน์โดยรอบล้วนออกแบบให้ส่งเสริมตัวอาคาร ตลอดจนกิจกรรมที่จะใช้สอย โดยทำเป็นลานโล่งกว้างด้านหน้าอาคาร และจัดวางรูปปั้นครึ่งตัวของ ขุนประสมคุรุการ (ชื้น เชษฐสมุน) ครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมลฑลอุดร (พ.ศ. ๒๔๗๑-๒๔๙๕) ซึ่งปั้นขึ้นใหม่ให้ถูกสัดส่วนแทนรูปปั้นเต็มตัวของเดิม
🗒อ้างอิง
✒️สุดจิต เศวตจินดา. (๒๕๕๓). อาคารวังแดง – ‘ เรียบง่ายตรงไปตรงมา’. สืบค้นเมื่อ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖. จาก https://sites.google.com/…/xakharwangdaeng…
✒️สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์. (๒๕๕๙). อาคารหอประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. สืบค้นเมื่อ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖. จากhttps://asaconservationaward.com/index.php/2016-06-13-15-21-44/building-2552/114-governor-hallofhistoryudonthanirajabhatuniversity-udonthani-province
✒️ภาพประกอบจากเพจศิษย์เก่าวิทยาลัยครูอุดรธานี https://www.facebook.com/groups/217542964935225
ท่านใดมีภาพ “อาคารวังแดง” สวยๆ มาแบ่งปันกันบ้างนะคะ